เที่ยว CORO Field เมลอนฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่นแห่งเมืองราชบุรี

หากเอ่ยถึงสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก จังหวัดราชบุรีถือเป็นอีกจุดไฮไลท์หนึ่งที่ใครหลายคนต่างนึกถึง ความงดงามของเมืองราชบุรีที่ทุกคนต้องยกนิ้วให้ก็คือธรรมชาติและอากาศที่สดชื่น อำเภอสวนผึ้งถือเป็นอีกจุดเช็คอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มีเวลาไม่มากนัก นอกเหนือจากฟาร์มแกะอันขึ้นชื่อแล้ว สวนผึ้งยังมีฟาร์มอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างเช่น CORO Field ฟาร์มโทมิเมลอนแห่งเดียวในประเทศไทย

ที่มาของชื่อ CORO Field นั้น มาจากคำสองคำ คือ CORO ในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า เวลา และ Field ในภาษาอังกฤษที่แปลวา สนามกว้างสีเขียว เมื่อรวมสองคำเข้าด้วยกัน จึงมีความหมายว่า สถานที่ที่ทำให้เวลาของชีวิตเราเดินช้าลง ก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้องคือ คุณพีท และคุณพอร์ท สถาวรมณี บนพื้นที่ 104 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 10 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นร้านอาหารและจำหน่ายของที่ระลึก ได้แก่ CORO Field Café ร้านอาหารสไตล์ Japanese Thai Fusion อาหารเมนูสุขภาพจากวัตถุดิบสดใหม่ภายในฟาร์ม G.I.Y. Café ร้านกาแฟแสนสวยหลังเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบด้วยกระจกใสที่สามารถมองเห็นภูเขา และสวนดอกไม้ที่อยู่ภายนอกได้ จุดเด่นของร้านนี้คือการนำดอกไม้อย่างกุหลาบ และดอกบัวมาปรุงแต่งเป็นขนมหวาน และชารสเลิศ CORO Market ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าเกษตรจากฟาร์มทั้งผักสดต่าง ๆ รวมไปถึงของไฮไลท์อย่างโทมิเมลอน เมลอนสายพันธุ์ฮอกไกโด และราชามะเขือเทศอย่าง Red Holland Cherry และ Yellow Holland Cherry มะเขือเทศสายพันธุ์จากเนเธอร์แลนด์

ถัดออกไปเป็นลานกว้างด้านนอก คือส่วนที่เป็นโรงเรือน เรียกว่า CORO House โรงเรือนทันสมัยจากอิสราเอลที่ใช้ระบบอัจฉริยะที่เรียกว่า CORO Brain ควบคุมทุกอย่าง มีสาธิตการปลูกโทมิเมลอน และมะเขือเทศ มีทั้งโรงเรือนสาธิตที่เอาไว้รับนักท่องเที่ยว และโรงเรือนที่เพาะปลูกจริง ๆ กว่า 30 โรงเรือน ภายในจะมีวิทยาการบรรยายให้ความรู้อย่างละเอียดด้วย โดยนักท่องเที่ยวต้องเสียค่าเข้าชมในส่วนนี้คนละ 180 บาท และถ้าไปตรงกับช่วงที่เมลอนสุกพร้อมเก็บเกี่ยวได้ เราก็จะได้เข้าไปเลือกตัดเมลอนกลับบ้าน โดยสนนราคาอยู่ที่คนละ 550 บาท

พื้นที่ต่อมา คือ CORO Garden ที่แบ่งออกเป็นโซนย่อย ๆ 2 โซน คือ Grow Zone ที่สามารถปลูกผัก 1 ต้นลงในแปลงที่เตรียมไว้ ปลูกเสร็จก็ปักชื่อคนปลูกเอาไว้ที่ข้างต้น รอดูมันเจริญเติบโตต่อไป และ Harvest Zone ที่สามารถเก็บมะเขือเทศจากแปลงปลูกใส่ชะลอมเล็ก ๆ กลับไปฝากคนที่บ้านได้ นอกจากนี้ใน CORO Garden ยังมีส่วนที่เป็นสวนดอกไม้สีสันสดใสอย่างดอก Forget Me Not และดอก Cleome ที่นักท่องเที่ยวสามารถโพสท่าถ่ายรูปได้อย่างไม่รู้เบื่อ

พื้นที่สุดท้าย คือ CORO Me แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ Adopt ส่วนที่เราสามารถขอรับต้นไม้อย่าง ต้นเฟิร์น หรือกระบองเพชรไปปลูกที่บ้านได้ GIY … Grow it yourself มุมที่จัดเอาไว้ให้เราสามารถตกแต่งต้นไม้ จัดสวนขวดได้ตามอัธยาศัย โดยมีอุปกรณ์อย่างหินกรวด ทรายสี และต้นไม้น่ารัก ๆ อย่างแคคตัส บอนไซ เอาไว้ให้เราตกแต่ง เมื่อตกแต่งเสร็จก็จะได้ใบอุปถัมภ์ต้นไม้ และสามารถนำต้นไม้ที่เราตกแต่งนั้นกลับบ้านไปดูแลต่อด้วย และสุดท้าย คือ Gift Station โซนจำหน่ายของที่ระลึกน่ารัก ๆ สไตล์ญี่ปุ่นที่สามารถเลือกซื้อและห่อของขวัญด้วยตัวเองได้

CORO Field ตั้งอยู่ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี สามารถเดินทางมาตามทางหลวงหมายเลข 3087 เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. ใครที่มีเวลาก็ลองแวะไปเที่ยวชมกันได้ แล้วจะรู้ว่าสนามสีเขียวแห่งนี้ ทำให้เวลาชีวิตของเราเดินช้าลงได้จริง ๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

ดำน้ำ “เกาะเฮ” ชมปะการังพร้อมขับรถเที่ยวรอบเมืองภูเก็ต ทริปนี้ 2 วัน 1 คืนดำน้ำ “เกาะเฮ” ชมปะการังพร้อมขับรถเที่ยวรอบเมืองภูเก็ต ทริปนี้ 2 วัน 1 คืน

สุดสัปดาห์นี้หากใครยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหน “จังหวัดภูเก็ต” ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจและเมื่อพูดถึงภูเก็ตแล้ว สิ่งที่หลาย ๆ คนต้องนึกถึงคือ แหลมพรหมเทพ หรือเกาะไม้ท่อน แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปดำน้ำดูปะการังกันที่ “เกาะเฮ” ดำน้ำเกาะเฮ เพลิดเพลินกับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล งานนี้มีเฮแน่นอน                 เกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อนักสำหรับคนทั่วไป แต่พอได้มาสัมผัสคุณจะตกลงหลุมรักที่นี่ทันที เพราะทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาวละเอียด เหมาะแก่การพักผ่อน เล่นน้ำ หรือดำน้ำชมปะการัง การเดินทางมาเที่ยวเกาะเฮ สามารถซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวแบบ One Day Trip กับบริษัททัวร์ได้

ดำน้ำ ชมโลกใต้บาดาล 4 สถานที่ที่ต้องไปให้ครบดำน้ำ ชมโลกใต้บาดาล 4 สถานที่ที่ต้องไปให้ครบ

โลกใต้น้ำเป็นอีกพื้นที่ที่น่าไปสัมผัส ได้แหวกว่ายอยู่ในน้ำอย่างอิสระ ชมสัตว์น้ำธรรมชาติและพืชพันธุ์ คงเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน การดำน้ำใต้ท้องทะเลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก จริง ๆ แล้วคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถดำน้ำได้นะ ใครไม่เคยลองก็แนะนำว่าต้องมาลองสักครั้ง เพราะใต้ท้องทะเลสวยงามกว่าที่เห็นในทีวีจริง ๆ ลองมาดูกันว่าในไทยมีที่ไหนบ้างที่เหมาะกับการไปเปิดโลกใต้น้ำ เกาะหินซ้อน สตูล ด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครนั้นทำให้เกาะหินซ้อนมีความโดดเด่นจากการที่มีหินก้อนใหญ่วางซ้อนทับกันได้โดยไม่หล่นลงมาอยู่กลางแนวโขดหิน จึงได้ชื่อมาว่าเกาะหินซ้อนนั่นเอง เกาะแห่งนี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งบริเวณรอบ ๆ เกาะนี้จะเป็นจุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ตกและยังเป็นพื้นที่สำหรับดำน้ำได้ด้วย ซึ่งใต้ทะเลอันดามันแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาการ์ตูนมากมายสวยงามรอให้เราได้เข้าไปสัมผัสด้วยตาตัวเอง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หากตั้งใจอยากดำน้ำชมปะการังแบบจริงจังเลยล่ะก็ต้องมาหมู่เกาะสิมิลันเลย เพราะที่นี่มีปะการังที่ค่อนข้างหลากหลายชนิดมากกว่าที่อื่น และมีปะการังที่หมู่เกาะอื่นนั้นไม่มีด้วยนะ นอกจากนี้แล้วยังมีสิ่งมีชีวิตอีกหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ

ไม่เก่า แต่ เก๋าอยู่ “บึงกาฬ” แดนพญานาค ถิ่นภูเขาหินไม่เก่า แต่ เก๋าอยู่ “บึงกาฬ” แดนพญานาค ถิ่นภูเขาหิน

การสร้างแผนการเดินทางสักที่หนึ่ง แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ส่วนหนึ่งเดินทางตามกระแสสังคม แต่อีกส่วนหนึ่งเลือกเดินทางตามอุดมคติที่ตนเองชอบ ซึ่งเราเป็นหนึ่งในนั้นโดยคีย์ของแผนท่องเที่ยวที่วางไว้คือ ที่ที่มันสุดยอดสำหรับเรา จริง ๆ มันก็ทั้ง 77 จังหวัดนั้นแหล่ะ เพียงแต่วัดกันที่ความเหมาะสมของวันเวลาและอารมณ์ในการเลือกสถานที่ที่จะไปเท่านั้น เราเชื่อว่าสิ่งมหัศจรรย์ในบ้านเกิดเราเองยังมีอีกเยอะ ชั่วชีวิตนี้อาจเที่ยวไม่ครบก็เป็นได้ ในครั้งนี้การเดินทางของเราจะนำทุกคนไปยัง จังหวัดที่แยกตัวเป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทยในปี 2554, จังหวัดที่อยู่บนสุดของภาคอีสานระยะทางวัดจากกรุงเทพมหานครประมาณ 765 กิโลเมตร, จังหวัดที่มีสะดือแม่น้ำโขง, จังหวัดที่ผู้คนศรัทธาในพญานาค, และจังหวัดที่มีสัตว์ทะเลอยู่บนบก ที่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อยู่ในจังหวัดเดียวกัน จังหวัดบึงกาฬ บึงกาฬเป็นจังหวัดน้องใหม่ ที่มีฝีมือทางการท่องเที่ยวไม่น้อยหน้าจังหวัดอื่น ด้วยพื้นที่เอื้ออำนวย