มหัศจรรย์เมืองโบราณ…พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ประเทศไทยของเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรธรรมชาติอย่างภูเขา ทะเล น้ำตก หรือสถานที่ที่ถูกรังสรรค์จากมนุษย์อย่างวัดวาอาราม ตลาดน้ำ หรือโบราณสถานต่าง ๆ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างให้เลือกท่องเที่ยว สมกับสโลแกนเก๋า ๆ ที่ว่า “Amazing Thailand” และหนึ่งในความมหัศจรรย์ที่เรากำลังจะพูดถึงก็คือ เมืองโบราณ หรือ Wonders of Thailand สถานที่ท่องเที่ยวสุดวิจิตรแห่งจังหวัดสมุทรปราการ

เมืองโบราณเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่บอกว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็เพราะว่ามันตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนตัวกว่า 800 ไร่ของคุณเล็ก และคุณประไพ วิริยะพันธุ์ สองสามีภรรยานักธุรกิจที่ชื่นชอบ และสนใจด้านศิลปะ ศาสนา ปรัชญาต่าง ๆ จึงได้ใช้เงินทุนส่วนตัวก่อสร้างสถาปัตยกรรมที่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมจากทั่วประเทศเอาไว้ ใช้เวลากว่า 60 ปีจนกลายเป็นเมืองโบราณดังที่เห็นในปัจจุบัน ภายในเมืองโบราณได้ถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่คล้ายกับประเทศไทย แบ่งออกเป็น 5 โซนตามลักษณะทางภูมิวัฒนธรรมของประเทศไทย ได้แก่ โซนสุวรรณภูมิ โซนภาคใต้และพุทธาวาสแห่งอนัตตาจักรวาล ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้เปิดให้เข้าฟรี โซนภาคกลาง โซนภาคเหนือ และโซนภาคอีสาน แต่ละโซนประกอบด้วยสถาปัตยกรรมที่จำลองมาจากของจริงที่ลดขนาดลงมาประมาณ 25% และสร้างขึ้นมาใหม่ตามจินตนาการผสมกับข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์

ภายในมีบรรยากาศร่มรื่นจากหมู่แมกไม้ และล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางภายในเมืองโบราณได้หลายวิธีตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถรางและปั่นจักรยาน วิธีนี้ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพราะมันรวมอยู่ในค่าเข้าชมแล้ว โดยมีบริการรถราง 4 รอบ คือ รอบที่ 1 เวลา 10.00 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.00 – 15.00 น. รอบที่ 3 เวลา 15.00 – 17.00 น. และรอบที่ 4 เวลา 17.00 – 19.00 น. ใครไม่สะดวกปั่นก็ขับรถกอล์ฟก็ได้ วิธีนี้มีค่าใช่จ่ายเพิ่มเติมตามขนาดของรถ รถกอล์ฟ 4 ที่นั่ง ชั่วโมงแรก ราคา 350 บาท ชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 200 บาท รถกอล์ฟ 6 ที่นั่ง ชั่วโมงแรก ราคา 500 บาท ชั่วโมงถัดไปชั่วโมงละ 300 บาท ใครที่เลือกวิธีนี้ต้องมีใบขับขี่ด้วยนะ และวิธีที่ 3 คือขับรถยนต์ส่วนตัวเข้าไป โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มคันละ 400 บาท

เนื่องจากเมืองโบราณที่พื้นที่กว้างใหญ่มาก และอาจไม่สามารถเข้าชมได้หมดภายในหนึ่งวัน จึงมีจุดไฮไลท์ที่อยากแนะนำให้นักท่องเที่ยวห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่ง เริ่มต้นจากตลาดโบราณ เป็นโซนที่เข้าฟรี ภายในมีของโบราณและขนมโบราณจำหน่าย จุดต่อมา คือ ศาลาพระอรหันต์ ศาลาสีทองกลางน้ำที่มีสะพานทอดยาวสู่ศาลาสุดอลังการ ด้านในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ บริเวณต่อมา คือ เขาพระสุเมรุที่ถูกสร้างขึ้นมาจากภาพเขียนในวันใหญ่อินทราราม จังหวัดชลบุรี เป็นสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นมาจากการสร้างภาพในจินตนาการ เช่นเดียวกับพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นมาจากหลักฐานทางโบราณคดี เพราะของจริงถูกเผาทำลายเหลือเพียงซากของฐานปราสาทเท่านั้น สถานที่ต่อมาที่น่าทึ่งไม่แพ้กันก็คือ ศาลารามเกียรติ์ ศาลา 5 หลังกลางน้ำที่มีพระตรีมูรติปางประทานมหาสมบัติประดิษฐานอยู่ สามารถไปไหว้ขอพรเรื่องโชคลาภ ความร่ำรวย และความสำเร็จสมหวัง พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ ได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติ พระที่นั่งนี้ถอดแบบมาจากของจริงที่กรุงเทพมหานครเลยทีเดียว ปราสาทหินพิมายก็เช่นเดียวกัน แม้ของจริงจะตั้งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา แต่ที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้ กันจะต่างก็ตรงที่มีขนาดเล็กกว่าเท่านั้น ปิดท้ายบนพื้นดินด้วยมหาวิหาร วชิรธรรมพุทธาวาสแห่งอนัตตจักรวาล สถานที่จากจินตนาการที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้าที่อุบัติมาแล้ว 28 พระองค์ รวมไปถึงที่จะอุบัติขึ้นในอนาคตอีก 10 พระองค์ ซึ่งโซนนี้สามารถเข้าชมฟรี และส่วนสุดท้ายที่อยากแนะนำ คือ ขบวนเสด็จพยุหยาตราทางชลมารคที่ถอดแบบมาจากริ้วขบวนของจริง โซนนี้สามารถล่องเรือชมได้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

เมืองโบราณตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ สามารถเดินทางโดยรถส่วนตัว จากกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือจะโดยสารรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ลงที่สถานีเคหะฯ ทางออกที่ 3 แล้วต่อรถรับส่งฟรี ซึ่งมี 2 สาย คือ จากสถานีเคหะ – เมืองโบราณ มี 2 รอบ เวลา 09.30 และ 14.30 น. และจากเมืองโบราณ – สถานีเคหะ มี 2 รอบ เวลา 12.30 และ 17.30 น. เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 9.00-19.00 น. อัตราค่าเข้าชม บัตรคุ้มสยาม (คนไทย) ผู้ใหญ่ คนละ 400 บาท เด็ก (อายุ 6-14 ปี) คนละ 200 บาท ค่าเข้าชมสำหรับบุคคลทั่วไป (ชาวต่างประเทศ) ผู้ใหญ่ คนละ 700 บาท เด็ก (อายุ 6-14 ปี) คนละ 350 บาท ราคานี้รวมรถราง จักรยาน และนั่งเรือ

ว่าแล้วสุดสัปดาห์นี้ไปปักหมุดที่เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ สุดยอดสถานที่มหัศจรรย์แห่งประเทศไทยกันดีกว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

ทริป Adventure มือใหม่ เตรียมตัวยังไงก่อนเดินป่าทริป Adventure มือใหม่ เตรียมตัวยังไงก่อนเดินป่า

กิจกรรมยอดฮิตของคนรักธรรมชาติและชอบการผจญภัยในยุคนี้คงหนีไม่พ้นการเดินป่าเดินเขา ชมธรรมชาติ ประเทศไทยนั้นมีพื้นที่ป่ามากมายที่อุดมสมบูรณ์และน่าไปเยือนสักครั้ง ซึ่งการเดินป่าก็ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะเชี่ยวชาญอยู่แล้วหรือว่าเป็นมือใหม่ก็ควรที่จะเตรียมตัวและเตรียมพร้อมรับกับทุกสถานการณ์เอาไว้ ลองมาดูกันว่าก่อนไปผจญภัยแบบนี้เราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง                 ศึกษาข้อมูลของสถานที่ที่จะไปเดินป่า เป็นเรื่องพื้นฐานที่ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ควรศึกษาสถานที่นั้น ๆ เอาไว้ก่อน ก่อนจะเดินป่าแบบนี้การศึกษาพื้นที่ตรงนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะ เพราะจะทำให้เราได้รู้ถึงสภาพแวดล้อม สภาพอากาศคร่าว ๆ ที่จะช่วยให้เราเตรียมตัวถูกและเตรียมอุปกรณ์ไปได้เหมาะสมนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นประเภทของรองเท้าที่ใช้ กันลื่น กันเลอะ หรือเสื้อผ้าที่อาจจะกันฝน กันหนาว ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แตกต่างกันไปตามการศึกษาสภาพอากาศ ณ ช่วงนั้น ๆ นั่นเอง                 อุปกรณ์สำคัญที่ห้ามลืม ไปเดินป่าแต่ละทีค่อนข้างจะใช้เวลามากกว่า 1

เที่ยวสวนตะลุยเก็บผลไม้ไทย อิ่มอร่อย สดจากต้นเที่ยวสวนตะลุยเก็บผลไม้ไทย อิ่มอร่อย สดจากต้น

เมืองไทยเราขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ที่อร่อยและหลากหลายไม่แพ้ที่อื่นเลย ยิ่งช่วงฤดูร้อน ผลไม้หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ต่างก็ออกผลให้ไปหากินกันให้ชื่นใจ ยิ่งถ้าได้กินแบบสด ๆ จากสวนยิ่งอร่อย ลองมาดูกันว่ามีสวนผลไม้ที่ไหนบ้างที่เปิดให้เข้าไปชมสวนและยังได้ทานผลไม้อร่อย ๆ แบบไม่อั้นอีกด้วย วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรรักษ์เขาบายศรี จันทบุรี ที่นี่เป็นสวนของคนในชุมชนที่ร่วมกันเป็นเจ้าของ โดยผลไม้ที่นี่มีทั้งทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งหมอนทอง ก้านยาว ชะนี และผลไม้อื่น ๆ อย่างลองกอง ระกำ เงาะ โดยจะเป็นการเปิดให้ชิมและเปิดให้ชมสวน นำทัวร์โดยเจ้าของสวนนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีเกษตร ลองเป็นชาวสวนด้วยตัวเอง และยังมีโฮมสเตย์ให้พักอีกด้วย

One Day Trip ณ ลพบุรี ง่ายนิดเดียวOne Day Trip ณ ลพบุรี ง่ายนิดเดียว

“ลพบุรี” เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางของประเทศไทย โดยมีแม่น้ำสำคัญที่ไหลผ่านจัดหวัด คือ แม่น้ำลพบุรี ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม และที่ราบสลับเนินเขา มีลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ประชากรส่วนใหญ่หาเลี้ยงชีพด้วยการทำเกษตรกรรม เนื่องจากพื้นที่มีความเหมาะสม แต่ในปัจจุบันลพบุรีกำลังถูกพัฒนาเศรษฐกิจในด้านอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในตัวเมืองลพบุรีสามารถทำได้ง่าย ๆ หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัว รถตู้โดยสาร หรือรถไฟ ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนอยากแนะนำผู้อ่านให้ลองไปเที่ยวตัวเมืองลพบุรีแบบ One Day Trip ด้วยรถไฟและรถตู้โดยสารกันสักครั้ง หากออกเดินทางจากกรุงเทพฯ รถไฟที่จะพาท่านเดินทางไปยังลพบุรีในรอบเช้าช่วงที่เหมาะสมมากที่สุดมีด้วยกัน 2 รอบคือ รถไฟขบวนที่ 111 และขบวนที่ 7