ดิบ เถื่อน ที่ธรรมชาติสร้าง ใจล้วน ๆ ถึงจะเข้าถึง “ลำคลองงู” จังหวัดกาญจนบุรี

คำเตือน บทความนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายโหด ดิบ เถื่อน เพราะเราจะพาคุณไปสัมผัสกับความสมบุกสมบัน ที่คุณไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนกับ 2 วัน 2 คืน ณ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู

อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ที่ที่ไม่มีงู(มาก) มีแต่หินงอกหินย้อย น้ำตก สัตว์ป่า และพืชพรรณไม้ป่านานาชนิด ตั้งอยู่ที่เขตอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยปกติแล้วอุทยานฯแห่งนี้ ต้อนรับนักท่องเที่ยวประเภทรายวันในทุก ๆ วัน แต่หากกล่าวถึงไฮไลท์ของที่นี่จะเปิดเฉพาะช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปีเท่านั้น โดยมีการเปิดจองทัวร์ท่องเที่ยวในช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งไฮไลท์ที่ว่าคือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติลำคลองงู

เส้นทางศึกษาธรรมชาติลำคลองงู เป็นสถานที่แห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม เพราะเป็นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติรูปแบบใหม่ ที่ต้องใช้ความกล้า ถึงขั้นบางคนยอมซื้อประกันชีวิตก่อนไปกันเลยทีเดียว เรากล่าวคุณอาจไม่เชื่อ แต่คุณลองนึกภาพตาม การเดินเท้าเข้าป่าที่ไหนกันเล่าต้องใส่เสื้อชูชีพถ้าไม่ใช่ลำคลองงูแห่งนี้

ในปัจจุบันนี้อุทยานฯ ได้กำหนดเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้ 2 วัน กับ 2 เส้นทาง โดยในวันแรกจะนักท่องเที่ยว เดินทางไปยังถ้ำเสาหิน ซึ่งเป็นเสาหินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่เสาหินเสานี้มิใช่นั่งรถไปแล้วพบจบกลับที่พัก แต่คุณต้องเดินเท้าเข้า 1 กิโลเมตร และเดินออกอีก 1 กิโลเมตร โดยตลอดเส้นทางคือคุณต้องไต่เขาหินเข้าไป ลุยน้ำ กระโดดน้ำ ว่ายน้ำ เหนื่อยล้าแทบขาดใจ แต่เมื่อคุณพบเจ้าเสาหินนี้แล้ว คุณจะอุทานออกมาเลยว่า “อเมซิ่ง” เสาหินขนาดมหึมาที่เกิดจากหินงอกหินย้อยมาบรรจบกัน ความเหนื่อยที่เสียไปแลกกับความสวยงามทางจิตใจที่เทียบกันไม่ได้เลย

ภายหลังคุณได้ชื่นชมกันสมอารมณ์หมายแล้ว ได้เวลาที่คุณจะต้องเก็บกล้องลงถุงกันน้ำอีกครั้ง เพราะมันถึงเวลาที่เราจะได้ออกกำลังกายในป่ากันอีกรอบ และครั้งนี้พิเศษกว่าขามา เพราะเราต้องไต่เขาทางเดิมลง มีตัวย่นระยะทางกลับให้สั้นลงได้ เหนื่อยน้อย แต่! ใจคุณต้องนิ่งเพราะมันคือ การเลือกกระโดดลงน้ำความสูงประมาณ 3-4 เมตร สองทางเลือกที่เราคิดว่า คุณอาจกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกลับทางเลือก แต่ท้ายที่สุดแล้วคุณก็เลือกทางของคุณ (ไม่อย่างงั้นก็ต้องนอนในป่าไปตลอดชีวิต) การเดินทางของวันนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อคุณเดินออกมากระทั่งพบรถกระบะที่พาคุณมา มันได้เวลาบอกลากับถ้ำเสาหินนี้ และเตรียมกับตุดหมายต่อไปในวันพรุ่งนี้ ถ้ำนกนางแอ่น

สวัสดี ถ้ำนกนางแอ่น เช้าอีกวันที่เราขึ้นรถกะบะ เดิน กระโดด และว่ายน้ำเพื่อชมธรรมชาติ การเดินในช่วงแรกคุณจะพบกับกระไดไม้ ที่ทำให้เราเชื่อสนิทใจว่าทางเรียบง่ายหวานหมู แต่เมื่อคุณเดินไปถึงปากถ้ำ ที่มีป้ายเขียนไว้ว่า ประตูมิติ มันคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่แท้จริง หลังจากที่คุณมุดปากถ้ำมาแล้วมันคือโลกอีกใบจริง ๆ ภาพที่คุณเห็นเบื้องหน้าคือโถงถ้ำขนาดใหญ่และป่าที่มีแสงจากฟ้าส่องตรงลงมา เสมือนว่าเป็นคนละที่กับเมื่อสักครู่นี้ แล้วเราก็เดินลึกเข้าไป ปีนป่ายเข้าไป ลุยน้ำเข้าไป ลอยคอเข้าไป เพื่อโผล่ยังจุดหมายปลายทาง จุดอันซีนของที่นี่ ไม่ใช่นกนางแอ่นเพราะที่นี่ไม่มีต่อให้คุณเดินวนอีกกี่รอบคุณก็จะไม่พบสัตว์ชนิดนี้ แต่สิ่งที่คุณจะพบและทำให้คุณทึ่ง คือ หินงอกหินย้อยที่จัดแสดงผลงานให้เราได้ชื่นชม ได้รัวชัตเตอร์ และได้จินตนาการตามผู้บรรยาย อาทิ หินรูปอนาคอนด้า หินรูปเอเลี่ยน หินรูปมือแม่นาค หินรูปนางเงือก เป็นต้น จริง ๆ แล้วคุณแทบไม่ต้องจินตนาการอะไรเลย เพราะภาพที่เห็นมันแสดงออกมามันชัดเจน และมันก็เป็นอันซีนที่คนเข้าไปเท่านั้นถึงจะได้เห็นจริง ๆ ซึ่งเราก็ได้รับทราบภายหลังด้วยว่าที่นี่เป็นจุดหมายยอดฮิตของบรรดาสมาชิก Fun88 หวย ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำไม โดยภายหลังยลโฉมความสวยงามแปลกตาของบรรดาหินงอกหินย้อยกันอย่างจุใจแล้ว มันก็ถึงเวลาที่เราต้อง โดด! ใช้แล้วเราต้องโดดลงน้ำที่มีความสูงประมาณ 5 เมตร แล้วลอยคอไปเรื่อย ๆ เดินต่ออีกหน่อย คุณก็จะพบรถกระบะที่จะพาคุณกับไปยังฐานที่ตั้ง

สองวันเต็มกับการเดินทางศึกษาเส้นทางธรรมชาติลำคลองงู ถึงเวลาที่เราต้องบอกลาสถานที่แห่งนี้อย่างแท้จริง จุดนี้เราเชื่อว่า ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “มีโอกาสจะมาอีก” อย่างแน่นอน เพราะความดิบของธรรมชาติที่นี่ และการเดินทางที่แปลกใหม่ ที่ไม่ใช่ทุกคนจะมาได้ ด้วยเวลาอันจำกัดก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือใจที่กล้าของเราเอง

ในการเดินทางมาศึกษาธรรมาชาติที่นี่อันดับแรกคุณต้องรวมกลุ่มมาเองไม่เกิน 10 คน และจองทริปกับอุทยานฯ ให้ได้เสียก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้วคุณก็เดินทางมายังจังหวัดกาญจนบุรี และฉีกเข้าถนนหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ–สังขละบุรี) กระทั่งถึงแยกพุทโธให้เลี้ยวขวาแล้วขับตรงไปเรื่อย ๆ จนผ่านบ้านเขาพระอินทร์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนดิน ขับต่ออีกประมาณ 3 กิโลเมตร คุณก็จะถึงที่หมาย อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ที่ ๆ ใจสั่งมา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 เสน่ห์ย้อนยุคแห่งวิถีชาวสยามเมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 เสน่ห์ย้อนยุคแห่งวิถีชาวสยาม

เป็นไปได้ไหม ถ้าเราจะย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งสมัย ร.ศ. 124 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 คำตอบคือ…เป็นไปได้ และใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 เป็นเมืองโบราณที่จำลองขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวไทยบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในสมัยรัชกาลที่ 5 ในยุคเลิกทาส ตั้งอยู่ที่ ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ภายในเมืองถูกเนรมิตให้เหมือนกับยุค ร.ศ. 124 ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม การแต่งกาย อาหาร รวมไปถึงเงินที่ใช้แลกเปลี่ยนซื้อสินค้าภายในเมือง ราวกับนั่งไทม์แมชชีนย้อนยุคไปก็ไม่ปาน สำหรับชื่อเมือง

หนึ่งวัน ร้อยภาพถ่าย ล้านความทรงจำ ณ “สมุทรปราการ” วันหยุดที่ไม่เคยหยุดหนึ่งวัน ร้อยภาพถ่าย ล้านความทรงจำ ณ “สมุทรปราการ” วันหยุดที่ไม่เคยหยุด

เขตติดต่อกรุงเทพมหานครที่ไม่ได้มีดีเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิ ใช่แล้วเรากำลังหมายถึงจังหวัด สมุทรปราการ เมืองที่ออกแบบให้สัมผัสถึงความอบอุ่นด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่จำเจ สร้างบรรยากาศให้ชีวิตคู่รัก ชีวิตครอบครัว ทวีคูณความหวานยิ่งขึ้น ทว่าคนโสดที่มาคนเดียวอาจจะอยากเริ่มต้องการใครมาเดินเคียงข้างก็สมุทรปราการ เป็นอีกจังหวัดที่ใกล้กรุงเทพฯ มากเสียจนหลายคนคิดว่าเป็นเขตหนึ่งของเมืองหลวง อาจเป็นเพราะมีระบบขนส่งที่ทันสมัยวิ่งผ่าน ประกอบกับเป็นที่ตั้งของสนามบินแห่งชาติของประเทศ จนกลายเป็นจังหวัดที่คุ้นชินของคนเมืองแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนโดยไม่รู้ตัว ความหลากหลายและไม่จำเจของแหล่งท่องเที่ยว จะทำให้คุณเพลิดเพลินตั้งแต่เช้ายันมืด อาจทำให้คุณหมดแรงและเลือกเช็คอินปล่อยอารมณ์หนึ่งคืน ในจังหวัดที่ใกล้บ้านคุณแห่งนี้ ในการวางแผนทริปเที่ยวสมุททรปราการในครั้งนี้ เราอยากให้คุณเริ่มต้นเช้าที่สดใส ด้วยการปั่นจักรยานสูดอากาศอันบริสุทธิ์ ณ บางกะเจ้า สถานที่สำหรับนักปั่นจักรยานทั้งมืออาชีพและสมัครเล่น ซึ่งคุณสามารถขี่ลัดเลาะเข้าที่นี่ไปที่นู่นได้ทั้งวัน อาทิ แวะถ่ายรูปที่ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์, เข้ากราบนมัสการ องค์พิฆเนศ

ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ…แหลมผักเบี้ยกับวิถีธรรมชาติชายเลนท่องเที่ยวเชิงนิเวศ…แหลมผักเบี้ยกับวิถีธรรมชาติชายเลน

จังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดทางภาคตะวันตกที่อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมหานครมากนัก หากเอ่ยถึงจังหวัดเพชรบุรี หลายคนต้องนึกถึง ต้นตาล ตาลโตนด ขนมหม้อแกง แต่นอกจากจะมีขนมอร่อย ๆ แล้ว จังหวัดนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติอย่างแหลมผักเบี้ยด้วย โครงการพระราชดำริแหลมผักเบี้ย เป็นผืนป่าชายเลนที่ได้รับการฟื้นฟูด้านปัญหาขยะและน้ำเสียจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 โดยใช้หลักการธรรมชาติช่วยธรรมชาติ คือ ใช้หญ้าธูปฤาษีช่วยบำบัดน้ำเสีย เพราะหญ้าชนิดนี้จะปล่อยก๊าซออกซิเจนจากรากลงไปในน้ำเสียให้กลายเป็นน้ำดี โดยใช้ระยะเวลาในการบำบัดประมาณ 90 วัน และใช้หลักธรรมชาติบำบัดโดยอาศัยรากของพืชที่ขึ้นในป่าชายเลนปล่อยก๊าซออกซิเจนลงในน้ำเสีย โดยใช้เวลาตามการขึ้นลงของน้ำทะเลในแต่ละวัน ก่อนจะปล่อยน้ำที่ได้รับการบำบัดแล้วลงสู่ลำคลอง และทะเลต่อไป จากพระราชดำริดังกล่าวจึงทำให้ “โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ