จุดชมพระอาทิตย์ตกที่ไม่ควรพลาด ตามไปเก็บให้ครบทุกภาคทั่วไทย

ความสวยงามอย่างหนึ่งของโลกก็คือแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่ช่วยให้เรามองเห็นทุกอย่างรอบตัว และเมื่อยามที่พระอาทิตย์ตกก็จะเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างความสว่าง สลัว จนมืดไป ซึ่งช่วงจังหวะที่พระอาทิตย์ตกในแต่ละสถานที่ก็สวยงามไม่เหมือนกัน และยังให้ความรู้สึกที่ต่างกันไปในทุกที่ ลองมาดูสถานที่ชมดวงอาทิตย์อัสดงกันให้ทั่วทุกภาคในประเทศไทยว่ามีที่ไหนบ้างที่เหมาะกับการไปนั่งชิลล์ ๆ ชมวิวสบาย ๆ

ดอยหลวงเชียงดาว เชียงใหม่

ด้วยความสูงที่เป็นอันดับ 3 ของไทย เมื่อขึ้นไปบนดอยหลวงเชียงดาวแล้วก็ยังมองไปเห็นภูเขาสลับกันไปมาและยังมีดอยสามพี่น้อง และดอยพีรามิดอีก รอบข้างที่ดอยนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณ ธรรมชาติ ประกอบกับความสูงของมันยังมีหมอกจาง ๆ รายรอบ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกจึงเปรียบเสมือนได้ชมความสวยงามของแสงอาทิตย์และหมอกลาง ๆ เหมือนกับอยู่บนสวรรค์เลยล่ะ

                แหลมพรหมเทพ ภูเก็ต

ถ้าเป็นภาคใต้ ไม่พูดถึงที่นี่ไม่ได้เลย ใคร ๆ ก็บอกว่าถ้ามาถึงภูเก็ตแล้วไม่ไปแหลมพรหมเทพเรียกว่ามาไม่ถึง ซึ่งที่นี่ถูกใช้เป็นจุดอ้างอิงเวลาพระอาทิตย์ตกดินด้วยนะ เราจะเลือกชมวิวด้านล่างโดยเดินไปตามปลายแหลมก็ได้ หรือจะยืนชมห่าง ๆ อยู่ตรงขอบปูนด้านบนก็ได้บรรยากาศต่างกันไป ภาพที่พระอาทิตย์ตกลงลับขอบปลายทะเลสะท้อนน้ำ รับรองว่าสวยงามเกินบรรยาย ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง แต่อาจจะต้องเจอกับคนเยอะบ้างเพราะที่นี่ถือเป็นที่ยอดฮิตที่ต้องมาจริง ๆ

                เนินนางพระยา จันทบุรี

ถ้าเป็นภาคตะวันออก หลายคนคงนึกถึงจันทบุรี ถ้าอยากชมพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ดี ๆ ก็ต้องเป็นที่จุดชมวิวเนินนางพญานั่นเอง เป็นอีกจุดที่อยู่ริมทะเลเลียบชายหาด และขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด นอกจากจะได้ชมพระอาทิตย์ตกสะท้อนแผ่นน้ำแล้วยังเห็นภูเขาล้อมรอบทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ยังมีจุดที่เป็นพื้นที่ให้คล้องกุญแจเพื่อเป็นการเช็คอินว่ามาถึงแล้วอีกด้วย

เขากระโจม ราชบุรี

จังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานครในภาคตะวันตกอย่างราชบุรีนี้ก็มีสถานที่ชมความงามของอาทิตย์อัสดงไม่แพ้ที่อื่น และยังเป็นจุดสำหรับชมทะเลหมอกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอากาศเย็นสบายราวกับภาคเหนือตลอดปี เหมาะกับการชมแสงสุดท้ายยามเย็นพร้อมกับอากาศหนาว ๆ เคล้าคลอไปด้วย การเดินทางขึ้นเขาอาจจะยากลำบากบ้าง แต่ก็คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้เห็น ไม่ใช่แค่พระอาทิตย์ตกแต่ที่นี่ยังสามารถค้างแรมเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นได้อีกด้วย

จริง ๆ จะดูพระอาทิตย์ตกที่ไหนก็ได้ แต่ถ้ามีโอกาสดี ๆ ก็อยากให้ลองไปชมสถานที่พิเศษหลาย ๆ ภาค ในประเทศไทย เพราะต่างสถานที่ ก็ให้อารมณ์ความรู้สึกที่ต่างกันไป ทุกที่มีสิ่งสวยงามมากมายที่คุณยังไม่รู้รออยู่เสมอนะ

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Post

เที่ยวสวนตะลุยเก็บผลไม้ไทย อิ่มอร่อย สดจากต้นเที่ยวสวนตะลุยเก็บผลไม้ไทย อิ่มอร่อย สดจากต้น

เมืองไทยเราขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ที่อร่อยและหลากหลายไม่แพ้ที่อื่นเลย ยิ่งช่วงฤดูร้อน ผลไม้หลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ต่างก็ออกผลให้ไปหากินกันให้ชื่นใจ ยิ่งถ้าได้กินแบบสด ๆ จากสวนยิ่งอร่อย ลองมาดูกันว่ามีสวนผลไม้ที่ไหนบ้างที่เปิดให้เข้าไปชมสวนและยังได้ทานผลไม้อร่อย ๆ แบบไม่อั้นอีกด้วย วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรรักษ์เขาบายศรี จันทบุรี ที่นี่เป็นสวนของคนในชุมชนที่ร่วมกันเป็นเจ้าของ โดยผลไม้ที่นี่มีทั้งทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งหมอนทอง ก้านยาว ชะนี และผลไม้อื่น ๆ อย่างลองกอง ระกำ เงาะ โดยจะเป็นการเปิดให้ชิมและเปิดให้ชมสวน นำทัวร์โดยเจ้าของสวนนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีเกษตร ลองเป็นชาวสวนด้วยตัวเอง และยังมีโฮมสเตย์ให้พักอีกด้วย

One Day Trip ณ ลพบุรี ง่ายนิดเดียวOne Day Trip ณ ลพบุรี ง่ายนิดเดียว

“ลพบุรี” เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางของประเทศไทย โดยมีแม่น้ำสำคัญที่ไหลผ่านจัดหวัด คือ แม่น้ำลพบุรี ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม และที่ราบสลับเนินเขา มีลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ประชากรส่วนใหญ่หาเลี้ยงชีพด้วยการทำเกษตรกรรม เนื่องจากพื้นที่มีความเหมาะสม แต่ในปัจจุบันลพบุรีกำลังถูกพัฒนาเศรษฐกิจในด้านอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในตัวเมืองลพบุรีสามารถทำได้ง่าย ๆ หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถยนต์ส่วนตัว รถตู้โดยสาร หรือรถไฟ ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนอยากแนะนำผู้อ่านให้ลองไปเที่ยวตัวเมืองลพบุรีแบบ One Day Trip ด้วยรถไฟและรถตู้โดยสารกันสักครั้ง หากออกเดินทางจากกรุงเทพฯ รถไฟที่จะพาท่านเดินทางไปยังลพบุรีในรอบเช้าช่วงที่เหมาะสมมากที่สุดมีด้วยกัน 2 รอบคือ รถไฟขบวนที่ 111 และขบวนที่ 7

“บ้านน้ำเชี่ยว” อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจของจังหวัดตราด“บ้านน้ำเชี่ยว” อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจของจังหวัดตราด

หากเอ่ยถึง “ตราด” จังหวัดที่ตั้งอยู่สุดเขตแดนภาคตะวันออกของไทยแล้วนั้น สถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วไปนึกถึงก็คงไม่พ้นหาดทรายขาว น้ำทะเลสีใส ตามเกาะมีชื่อน้อยใหญ่ต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามจังหวัดตราดไม่ได้มีดีแค่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามเหล่านั้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รวมเอาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชิงอนุรักษ์ เชิงวัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัวไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวนั้นมีชื่อว่า “บ้านน้ำเชี่ยว” บ้านน้ำเชี่ยวตั้งอยู่ที่ ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้สามารถมาได้ทั้งรถประจำทาง และรถตู้ จากสถานีขนส่งหมอชิตหรือเอกมัย โดยมาลงที่สถานีขนส่งจังหวัดตราด จากนั้นต่อรถสายตราด – แหลมงอบ มาลงที่หมู่บ้านได้อย่างสะดวก หรือหากใครขับรถส่วนตัวมาเองก็เพียงแค่ขับออกมาจากตัวเมืองโดยใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 3148 ใช้เวลาแค่ 10